กรุงเทพฯ วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 -   ไทยแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดที่มีส่วนเเบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในประเทศไทย คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 2,000 ล้านบาท แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (II&HNW) หุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.80% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน และค้ำประกันโดยบมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น คาดว่าจองซื้อประมาณวันที่ 27-29 มิถุนายน 2565 ยอดขั้นต่ำในการจองซื้อ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมีช่องทางการขายผ่าน บล.โกลเบล็ก และ บล.เคทีบีเอสที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-687-7549 และ 02-351-1800 กด 1 ตามลำดับ

ทั้งนี้ การระดมทุนดังกล่าวของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน และลงทุนเพิ่มเพื่อการเติบโตในอนาคตของบริษัทต่อไป โดยเฉพาะการดำเนินการตามแผนการรุกตลาดเส้นทางระหว่างประเทศเต็มที่ ภายหลังจากที่มาตรการการเดินทางของหลายประเทศผ่อนคลายลง ถือเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการเดินหน้าฟื้นฟูตลาดการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งการเดินทางภายในประเทศ และต่างประเทศ

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยแอร์เอเชียได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถบริหารจัดการนำพาธุรกิจผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตที่สุดมาได้ จนปัจจุบันได้กลับมาให้บริการเส้นทางบินทั้งในและต่างประเทศอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันไทยแอร์เอเชียเปิดบินเส้นทางภายในประเทศครบทุกเส้นทาง และบินเส้นทางระหว่างประเทศแล้ว รวม 8 ประเทศ 19 เส้นทางบิน สู่ มัลดีฟส์ กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย และลาว สอดคล้องกับปริมาณความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรกๆ ในการกลับมาท่องเที่ยวใช้จ่ายอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิด-19

“ผมเชื่อว่าเราได้ผ่านจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมการบินไปแล้ว หลังจากนี้จะเป็นระยะของการฟื้นตัวทางธุรกิจให้กลับมาเติบโตตามแผนให้เร็วที่สุด ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมสภาพคล่อง ความมั่นคง และทำให้เรารุกก้าวไปข้างหน้าอย่างคล่องตัวที่สุด ทั้งนี้แอร์เอเชียของเราได้รับการสนับสนุนที่ดีจากทั้งลูกค้าและนักลงทุนตลอดมา รวมถึงยังมีการบริหารจัดการ และประวัติการชำระหนี้ที่ดี เราจึงเชื่อว่าการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นเดิม” นายสันติสุข กล่าว

สำหรับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ในไตรมาส 1 ปี 2565 สามารถเพิ่มเที่ยวบินเป็น 11,002 เที่ยวบิน มีอัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ ร้อยละ 73 เติบโตเป็นที่น่าพึงพอใจ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นสัญญาณที่ดีที่การเดินทางทางอากาศเริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยในปี 2565 ตั้งเป้าหมายการขนส่งผู้โดยสารจำนวน 10.4 ล้านคน อัตราการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย 78% ด้วยจำนวนฝูงบิน 53 ลำ  นอกจากนี้ไทยแอร์เอเชียยังตั้งเป้าที่จะกลับมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศเต็ม 100% ของการให้บริการก่อนช่วงโควิดภายในปีนี้ พร้อมครองความเป็นผู้นำในตลาดประเทศไทยต่อไป

นอกจากนี้ ไทยแอร์เอเชียยังได้พัฒนามาตรฐานการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ตลอดการเดินทาง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการด้านสุขอนามัยของการเดินทางทางอากาศ  รวมถึงพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัยและตรงต่อเวลา โดยไทยแอร์เอเชียติด 3 อันดับแรก “สายการบินราคาประหยัดที่ตรงเวลามากที่สุดในโลก” จากการจัดอันดับของ Cirium รวมทั้งคว้า 2 รางวัลมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) ระดับสูงสุด ประเภทกิจการยานพาหนะทางอากาศ และ The Best of SHA (ระดับ 3 ดาว) เป็นสถานประกอบการยอดเยี่ยมที่มีมาตรฐาน SHA สูงกว่าเกณฑ์มากที่สุด จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่ของไทยแอร์เอเชีย ยังได้รับคัดเลือกให้เป็น “หุ้นยั่งยืน” 3 ปีต่อเนื่อง จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นบริษัทที่น่าลงทุน พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การดำเนินงานของสายการบินไทยแอร์เอเชีย (รหัสเที่ยวบิน FD) และ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยื่นขอฟื้นฟูกิจการของ “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” เนื่องจากเป็นคนละบริษัท คนละสายการบิน ที่มีการบริหารงานแยกจากกันชัดเจน และมีเส้นทางบินที่ไม่ทับซ้อนกัน โดยเที่ยวของบริษัทไทยแอร์เอเชีย ให้บริการเส้นทางในประเทศและเส้นทางระหว่างประเทศระยะใกล้ (Short haul) ขณะที่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ให้บริการเส้นทางบินระยะไกล (Long haul) บินเกินกว่า 4 ชั่วโมง 30 นาทีขึ้นไป เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี