AAV ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2560 กำไรสุทธิ 261 ล้านบาท ขนส่งผู้โดยสารที่ 4.93 ล้านคน เปิด 4 เส้นทางใหม่ จากกรุงเทพฯ สู่มัลดีฟส์ ชัยปุระ ติรุจิรัปปัลลิ และอู่ตะเภา-หางโจว
BANGKOK, 10 November 2017 - บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นใหญ่สายการบินไทยแอร์เอเชีย(TAA) เผยผลประกอบการ ไตรมาส 3 ปี 2560 สำหรับ AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,734 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท โดย TAA รายได้รวมอยู่ที่ 8,734 ล้านบาท กำไรสุทธิ รวม 472 ล้านบาท มียอดขนส่งผู้โดยสารไตรมาสนี้รวมอยู่ที่ 4.93 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 อัตราส่วนขนส่งผู้โดยสารร้อยละ 85 เพิ่มขึ้น 1 จุด จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีเครื่องบินประจำการฝูงบิน ณ สิ้นสุดไตรมาส รวม 54 ลำ
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 TAA เริ่มให้บริการใน 4 เส้นทางบินใหม่ระหว่างประเทศแล้วคือ จากกรุงเทพฯ สู่มัลดีฟส์ ชัยปุระ(อินเดีย) ติรุจิรัปปัลลิ(อินเดีย) และเส้นทาง พัทยา(อู่ตะเภา) - หางโจว(จีน) ซึ่งได้รับการตอบรับน่าพอใจ นอกจากนี้ยังเพิ่มความถี่ในเส้นทางบิน เชียงใหม่-พัทยา(อู่ตะเภา) กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-พิษณุโลก เพื่อรองรับการเดินทางภายในประเทศที่มากขึ้น
TAA ได้เพิ่มโอกาสใหม่เพื่อเป็นทางเลือกการเดินทางรูปแบบต่างๆ อาทิ เปิดตัวเที่ยวบิน “บินเช้า คุ้มชัวร์” นำร่องในเส้นทางยอดนิยมกรุงเทพฯ สู่เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยเที่ยวบินจะออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าตรู่ก่อน 5.00 น. เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการต่อเที่ยวบิน(Fly Thru)
และผู้ที่สะดวกเดินทางแต่เช้า โดยใช้จุดเด่นด้านราคาที่ประหยัดกว่าช่วงเวลาบินทั่วไป และบริการใหม่ “AirAsia Red Carpet” เจาะตลาดผู้โดยสารที่รักความสะดวกสบาย รวดเร็ว โดยสามารถใช้เคาน์เตอร์เช็คอินพิเศษ ห้องรับรองพิเศษ
(Lounge) ในท่าอากาศยาน บริการเรียกขึ้นเครื่อง และรับสัมภาระที่ปลายทางก่อนใคร
ทั้งนี้ ไทยแอร์เอเชียยังตั้งเป้าที่จะเปิดเส้นทางบินใหม่และเพิ่มความถี่เที่ยว บินอีกหลายเส้นทางบินในไตรมาสที่ 4 ปี 2560
โดยคาดการณ์ยอดผู้โดยสารตลอดปี 2560 น่าจะเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 19.5 ล้านคน เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในไตรมาสสุดท้าย (เก้าเดือนแรก ยอดผู้โดยสารของ TAA รวมอยู่ที่ 14.48 ล้านคน)