AAV ประกาศผลประกอบการ ตลอดปี 2561
รายได้สำหรับปีรวม 40,200.2 ล้านบาท กำไรรวม 70.0 ล้านบาท
ตั้งเป้า 2562 ขนส่งผู้โดยสาร 23.15 ล้านคน บุกตลาด CLMV และอินเดีย
กรุงเทพฯ - บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นใหญ่ บจ. ไทยแอร์เอเชีย (TAA) ประกาศผลประกอบการของบริษัท ประจำปี 2561 แม้เผชิญกับสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และการชะลอตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีน แต่ยังคงสามารถสร้างผลกำไรสำหรับปีรวมที่ 70.0 ล้านบาท จากรายได้รวม 40,200.2 ล้านบาท ขนส่งผู้โดยสาร 21.57 ล้านคน ด้วยอัตราขนส่งเฉลี่ย (Load Factor) ร้อยละ 85 พร้อมตั้งเป้าปี 2562 รับเครื่องบินใหม่เพิ่ม 4 ลำ เจาะตลาด CLMV และอินเดียเพิ่ม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างเเข็งเเกร่งเเละยั่งยืน
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ปี 2561 ธุรกิจสายการบินต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเรายังคงยึดมั่นในการเป็นสายการบินราคาประหยัดที่มีการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และทำงานกันอย่างหนักเต็มที่ ทำให้ผลประกอบการตลอดปี 2561 ของ AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 40,200.2 ล้านบาท เป็นกำไรสำหรับปีรวม 70.0 ล้านบาท โดยมียอดผู้โดยสารรวม 21.57 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 85 มีเครื่องบินรวม ณ สิ้นปี 2561 รวม 62 ลำ (เพิ่มขึ้น 6 ลำจากสิ้นปี 2560 ที่ 56 ลำ) โดยไตรมาส 4 ปี 2561 จำนวนผู้โดยสารฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการได้รับปัจจัยบวกของนโยบายของภาครัฐฯในมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) อย่างไรก็ตามสำหรับ TAA ตลอดปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 40,199.4 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 127.5 ล้านบาท
“เรายังมุ่งมั่นในการสร้างความเเข็งเเกร่งให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมมาตรฐานบริการระดับสากล โดยปี 2561 แอร์เอเชียยังรักษาเเชมป์การเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก 10 สมัยซ้อน จากสกายเเทรกซ์ และไทยแอร์เอเชียยังได้รับจัดอันดับเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ตรงเวลาที่สุดในโลก อันดับ 8 จาก โอเอจี เอวิเอชั่น เวิลด์ไวด์ โดยถือเป็นสายการบินราคาประหยัดของไทยที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดในปีนี้ ซึ่งยืนยันว่าเราคือสายการบินที่พัฒนาตัวเองต่อเนื่อง และพร้อมรับการเเข่งขันและบทพิสูจน์ในทุกสถานการณ์” นายสันติสุขกล่าว
สำหรับปี 2562 สายการบินตั้งเป้าหมายรับเครื่องบินใหม่ เข้าประจำการฝูงบินอีก 4 ลำ รวมเป็น 66 ลำ ณ สิ้นปี 2562 โดยจะมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายบินที่หลากหลาย ทั้งการเพิ่มฐานปฏิบัติการบินภายในประเทศแห่งที่ 7 ที่จังหวัดเชียงราย การเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ๆ จากฐานปฏิบัติการบินทั่วภูมิภาค และตอกย้ำกลยุทธ์สร้างเสถียรภาพทางรายได้ที่มั่นคง โดยการเพิ่มสัดส่วนผู้โดยสารในตลาด CLMV และตลาดอินเดียเพิ่มจากตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เเข็งเเกร่งอยู่เเล้ว โดยตั้งเป้ายอดจำนวนผู้โดยสารตลอดปี 2562 ที่ 23.15 ล้านคน และอัตราส่วนขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 86