AAV ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 กำไรจากการดำเนินงานหลัก 1,640.3 ล้านบาท EBITDA เป็นบวกที่ 3,094.2 ล้านบาท ขนส่งผู้โดยสารสูงที่ 5.5 ล้านคน

กรุงเทพฯ, วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 -  บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (“AAV”) ผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ บจ. ไทยแอร์เอเชีย (“TAA”) เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 13,793.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย EBITDA เป็นบวกต่อเนื่อง อยู่ที่ 3,094.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 78 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ตัวเลขรายงานยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ (409.1) ล้านบาท เหตุจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าทางบัญชี จำนวน (2,049.4) ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบกับกระเเสเงินสดของบริษัท อย่างไรก็ตามหากไม่คิดรวมผลขาดทุนดังกล่าว ทำให้ไตรมาสที่ 1 นี้ AAV มีกำไรจากการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างมาก อยู่ที่ 1,640.3 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน (203.2) ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ผลดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 TAA ขนผู้โดยสารอยู่ที่ 5.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีฝูงบินรวมอยู่ที่ 56 ลำ โดยนำเครื่องบินมาปฏิบัติการบินแล้ว 50 ลำ และได้เปิดให้บริการเที่ยวบินใหม่ในไตรมาส คือ หาดใหญ่-สิงคโปร์ และดอนเมือง-เกาสง โดยภาพรวม ปริมาณที่นั่งกลับมาฟื้นตัวที่ร้อยละ 90 ปริมาณผู้โดยสารกลับมาที่ร้อยละ 93 เมื่อเทียบในช่วงเดียวกันก่อนโควิด

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า “ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ปีที่เเล้ว โดยไตรมาสนี้มีอัตราขนส่งผู้โดยสารรวม สูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ร้อยละ 93 และมีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศปลายเดือนมีนาคม แตะร้อยละ 40 สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ตอกย้ำการเป็นแบรนด์เเละผู้นำที่เเข็งเเกร่ง ด้วยฝูงบินใหญ่มีเครื่องบินให้บริการมากกว่าคู่แข่ง พร้อมจุดเด่นด้านความตรงต่อเวลา ผนวกกับการทำการตลาดกับลูกค้าภายในประเทศในกลุ่มต่างๆ ทำให้ไทยแอร์เอเชียของเราอยู่ในการรับรู้ของลูกค้าอยู่ตลอด

สำหรับตลาดระหว่างประเทศในไตรมาสนี้สามารถเติบโตน่าพอใจเช่นกัน โดยเฉพาะการได้รับประโยชน์จากนโยบายยกเลิกวีซ่าระหว่างประเทศไทยและจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งขาเข้าเเละขาออก ในขณะที่ตลาดอินเดีย อาเซียน ไต้หวัน เเละญี่ปุ่น ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ TAA ยังเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ๆ ท้ายไตรมาส อาทิ เส้นทาง ดอนเมือง-ปักกิ่ง เส้นทางบินสิทธิ Fifth Freedom บินเเวะรับส่งผู้โดยสาร อีก 2 เส้นทาง คือ “ดอนเมือง-ไทเป-โอกินาวา” และ “ดอนเมือง-เกาสง-โตเกียว (นาริตะ)” ซึ่งจะเริ่มบินในไตรมาส 2 นี้ ถือเป็นโอกาสในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ” นายสันติสุขกล่าว

ทั้งนี้ TAA ยังคงทำงานหนักร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อนำพานักท่องเที่ยวเข้าไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ แคมเปญ AirAsia Boarding Pass Privileges ที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถนำบัตรโดยสารแอร์เอเชีย แลกรับส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร สินค้า บริการ ได้กับ 18 พาร์ทเนอร์ของไทย เพิ่มมูลค่าในการเดินทางยิ่งขึ้น

สำหรับในไตรมาส 2 ปี 2567 แม้จะเข้าสู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว เเต่ TAA ได้เตรียมเเผนกระตุ้นการเดินทางทั้งเส้นทางภายในเเละระหว่างประเทศ พร้อมประเมินเเผนเพิ่มความถี่บินในเส้นทางบินจีนยอดนิยมซึ่งน่าจะทยอยเพิ่มได้ในต้นไตรมาส 3 ในขณะที่นโยบายภาครัฐในการเจรจาเพิ่มโควต้านักท่องเที่ยวอินเดีย คาดว่าจะมีข่าวที่เป็นบวกกับอุตสาหกรรมในเร็วๆ นี้ โดยอยู่ระหว่างรอการสรุปและจัดสรรที่นั่งเพิ่มจากทางสำนักงานการบินพลเรือนเเห่งประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ตลอดปี 2567 TAA ยังคงเป้าจะขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 20-21 ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยที่ร้อยละ 90 มีรายได้จากการขายและบริการ เติบโตร้อยละ 20-23 เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมคงแผนขยายฝูงบินเป็น 60 ณ สิ้นปีนี้