Capital A และ แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ประกาศได้ดำเนินการตามเงื่อนไขสำคัญจากหน่วยงานกำกับดูแลของไทย ก้าวสำคัญสู่การรวมธุรกิจสายการบินทั้งหมดไว้ภายใต้กลุ่มเดียว

กัวลาลัมเปอร์, 17 ตุลาคม 2025 – บริษัท แคปปิตอล เอ เบอร์ฮัด (“Capital A”) และ แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เบอร์ฮัด (“AAX”) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขสำคัญตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับหลักทรัพย์ของไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญลำดับสุดท้าย ก่อนการรวมธุรกิจสายการบินทั้งหมดของกลุ่มแอร์เอเชียให้อยู่ภายใต้กลุ่มเดียวกัน

ความคืบหน้านี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ทั้งสองบริษัทเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของกระบวนการขายธุรกิจสายการบินของ Capital A ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเปลี่ยนผ่านจากผู้ให้บริการสายการบินไปสู่กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและดิจิทัลหลายแพลตฟอร์ม (multi-platform travel and digital group)

ในรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซา (Bursa filing) วันนี้ AAX ระบุว่าได้ดำเนินการครบถ้วนตามเงื่อนไขสำคัญภายใต้กฎระเบียบของไทยแล้ว ทำให้การทำธุรกรรมสามารถดำเนินต่อได้อย่างราบรื่น โดย AAX จะร่วมกับพันธมิตรชาวไทยเข้าดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ("AAV") ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ถือหุ้นในบริษัท ไทยแอร์เอเชีย แทนการยื่นขอผ่อนผันจากหน่วยงานกำกับดูแล

---

ประเด็นสำคัญจากข้อตกลงนี้ ได้แก่

-สัดส่วนการถือหุ้นของ AAX ใน AAV ยังคงอยู่ที่ 40.71% โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

-การทำคำเสนอซื้อทั้งหมดจะได้รับเงินทุนจากพันธมิตรชาวไทย โดย AAX ไม่มีภาระทางการเงินเพิ่มเติม

-การดำเนินงานของบริษัท ไทยแอร์เอเชีย ยังคงเป็นปกติ ไม่มีผลกระทบต่อเที่ยวบินหรือพนักงาน

---

เมื่อเงื่อนไขดังกล่าวได้รับการยกเว้นแล้ว จะทำให้ทุกข้อของเงื่อนไขบังคับก่อน (condition precedents) บรรลุตามที่ตกลงกันไว้ครบถ้วน และ สัญญาซื้อขายหุ้น (Share Sale and Purchase Agreement) จะมีผลสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนตุลาคม ก่อนจะดำเนินการเสร็จสิ้นธุรกรรมทั้งหมดภายในเดือนธันวาคม ขั้นตอนสุดท้ายจะรวมถึง การลดทุน การจัดสรรหุ้น และการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนใหม่

พัฒนาการล่าสุดนี้จะเปิดทางให้ Capital A สามารถยื่นขอปลดสถานะ PN17 ได้ภายในสิ้นเดือนธันวาคม ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นการขยายธุรกิจหลักที่มีศักยภาพสูงภายใต้กลุ่ม ได้แก่

ADE (ธุรกิจซ่อมบำรุงอากาศยาน), Teleport (โลจิสติกส์), AirAsia MOVE (แพลตฟอร์มท่องเที่ยว), Abc. (ลิขสิทธิ์แบรนด์และสินทรัพย์ดิจิทัล), Santan (อาหารและเครื่องดื่ม) และ BigPay (ฟินเทค)