แคปปิตอล เอ ประกาศการปรับโครงสร้างเดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย พร้อมเดินหน้าสู่ก้าวต่อไป
ดำเนินการครบทุกเงื่อนไขสำหรับการขายธุรกิจสายการบินแล้ว
คาดว่าการดำเนินการจะเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้น แคปปิตอล เอ เตรียมยื่นขอเพิกถอนสถานะ PN17 ภายในสิ้นปี ซึ่งจะเป็นการปิดฉากบทสุดท้ายของการปรับโครงสร้างที่ยาวนานเกือบ 6 ปีนับตั้งแต่สถานการณ์โควิด
ภายหลังการดำเนินการเสร็จสิ้น จะเกิดบริษัทสองกลุ่มที่มีความชัดเจน คือ กลุ่มสายการบินแอร์เอเชียที่รวมเป็นหนึ่งเดียว กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและดิจิทัลของแคปปิตอล เอ
คณะกรรมการจากทุกหน่วยงานในเครือ Capital A, AirAsia X และ AirAsia Aviation Group Limited จากซ้ายไปขวา: จามาลุดดิน อิบราฮิม, ดาโต๊ะศรี โมฮัมเหม็ด ชะซัลลี รัมลี, ดาโต๊ะ อับดุล มูตาลิบ อาลิอัส, โทนี่ เฟอร์นันเดส, พลจัตวา (เกษียณ) ดาโต๊ะ ฟัดซิลละห์ อับดุลลาห์, ดาโต๊ะ ฟาม ลี อี, ดาโต๊ะ คามารุดิน เมรานัน, ดาโต๊ะ อับเดล อาซิซ หรือ อับดุล อาซิซ บิน อาบู บาการ์, ดาโต๊ะ โมฮาเหม็ด คาดาร์ เมอริกัน, ส.ว. ดาโต๊ะ ดร. ราส อาดิบา รัดซี และคุณชิน มิน หมิง
กัวลาลัมเปอร์, 30 ตุลาคม 2568 – บริษัท แคปปิตอล เอ จำกัด (Capital A Berhad หรือ “แคปปิตอล เอ”) ประกาศว่าได้ดำเนินการครบถ้วนตามเงื่อนไขทั้งหมดสำหรับการขายธุรกิจสายการบินให้แก่บริษัท แอร์เอเชีย เอ็กซ์ จำกัด (AirAsia X Berhad หรือ “แอร์เอเชีย เอ็กซ์”)
ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็น “บทสรุปสุดท้าย” ของการรวมธุรกิจสายการบินทั้งหมดภายใต้กลุ่มสายการบินเดียว และเป็นจุดเริ่มต้นของ “การเดินทางครั้งใหม่” ของแคปปิตอล เอ ในฐานะกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวและดิจิทัลแบบครบวงจร
การบรรลุเป้าหมายสำคัญนี้เกิดขึ้นหลังจากการปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับหนังสือยินยอมจากผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด และหนังสือรับรองการเสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) มูลค่า 1,000 ล้านริงกิตให้แก่แอร์เอเชีย เอ็กซ์ อีกทั้งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการขอผ่อนผันข้อกำหนดด้านกฏระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศไทยแล้ว
หลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายจะเดินหน้าดำเนินการในขั้นตอนที่เหลือ ได้แก่ การลดทุนและจัดสรรหุ้น (Capital Reduction and Distribution) ของแคปปิตอล เอ การออกและจดทะเบียนหุ้นของแอร์เอเชีย เอ็กซ์ รวมถึงขั้นตอนทางกฎหมายอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ และจะตามมาด้วยการยื่นคำขอเพิกถอนสถานะ PN17 ในเดือนเดียวกัน
นาย โทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแคปปิตอล เอ กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม เพราะเราสามารถประกาศได้อย่างเป็นทางการว่าสัญญาทั้งหมดได้ผ่านเงื่อนไขครบถ้วน ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เราได้ฝ่าฟันอุปสรรคและการอนุมัติต่าง ๆ เพื่อให้ข้อตกลงนี้สำเร็จลุล่วง
เรากำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเดินทางที่ยาวนาน พร้อมกลับมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม ด้วยกลุ่มสายการบินที่มั่นคง และบริษัทในเครือใหม่ทั้ง 5 แห่งภายใต้แคปปิตอล เอ
ต่อจากนี้ เราจะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ด้วยบริษัท 2 กลุ่มที่มีความชัดเจน คือกลุ่มสายการบินภายใต้ชื่อ แอร์เอเชีย กรุ๊ป ที่รวมสายการบินแอร์เอเชียทั้ง 7 สาย (ทั้งเส้นทางระยะกลางและระยะสั้น) ให้ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายเดียวทั่วภูมิภาค และกลุ่มแคปปิตอล เอ ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจ 5 ประเภทในกลุ่มท่องเที่ยวและดิจิทัลที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
“ผมขอขอบคุณ Allstars ทุกคนที่ไม่ยอมแพ้ และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่คอยสนับสนุนเรา ให้สามารถพลิกฟื้นกลับมาจากสถานการณ์ที่ยากลำบากคือบทพิสูจน์ว่าความมุ่งมั่นและวินัยย่อมนำไปสู่เป้าหมายเสมอ”
เมื่อการรวมธุรกิจสายการบินแล้วเสร็จ “แอร์เอเชีย กรุ๊ป” จะดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ที่มุ่งสร้าง “เมกา ฮับ” หลายแห่งทั่วภูมิภาค แทนการพึ่งพาตลาดหลักเพียงแห่งเดียว พร้อมตั้งเป้าที่จะเป็น “สายการบินเครือข่ายราคาประหยัดเครื่องบินลำตัวแคบรายแรกของโลก” ซึ่งจะช่วยขยายเครือข่ายการบินให้กับผู้โดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องบิน ลดต้นทุนต่อหน่วย และสร้างโอกาสในการเติบโต ผ่านการใช้เครื่องบินรุ่นแอร์บัส A321neo และ A321XLR ที่มีพิสัยบินไกลมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน บริษัทในเครืออีก 5 แห่งของแคปปิตอล เอ ถือเป็น “ก้าวต่อไป” ของการเติบโต นอกเหนือจากธุรกิจการบิน ได้แก่ ADE (ธุรกิจวิศวกรรมและซ่อมบำรุงอากาศยาน) Teleport (ธุรกิจโลจิสติกส์) AirAsia MOVE (แพลตฟอร์มท่องเที่ยวดิจิทัล) Santan (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) และ Abc. (ธุรกิจการให้สิทธิ์ใช้แบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา) ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็น AirAsia NEXT โดยทั้ง 5 ธุรกิจนี้มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตน และสร้างนิยามใหม่ให้กับภูมิทัศน์ธุรกิจในอาเซียน เช่นเดียวกับที่แอร์เอเชียเคยปฏิวัติวงการการบินในภูมิภาคนี้
ธุรกิจเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของข้อมูล เทคโนโลยี และฐานผู้ใช้งานของแคปปิตอล เอ เพื่อสร้างโอกาสอย่างเต็มที่ ด้วยกลุ่มผู้บริหารและความสำเร็จที่ผ่านมา รวมถึงวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม แคปปิตอล เอ มุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจทั้ง 5 นี้อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาวและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น
ประกาศครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าการปรับโครงสร้างของบริษัทได้เข้าสู่ “บทสุดท้าย” และแคปปิตอล เอ กำลังเตรียมพร้อมสำหรับ “การเดินทางครั้งใหม่” หลังการเพิกถอนสถานะ PN17